tag:blogger.com,1999:blog-8384095967332364504.comments2015-07-17T06:29:46.004-07:00กลุ่ม NEC ม. บูรพา รุ่น 11/2551RAINMANhttp://www.blogger.com/profile/04700042194659133945noreply@blogger.comBlogger53125tag:blogger.com,1999:blog-8384095967332364504.post-29065328487471398572009-07-11T01:35:33.958-07:002009-07-11T01:35:33.958-07:00เพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกท่าน
ห่างเหินกันจังเลยช่วงนี้ ...เพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกท่าน<br /><br />ห่างเหินกันจังเลยช่วงนี้ ตองว่านะไปกินๆร้องๆเบื่อแล้ว หาเวลาว่างไปเที่ยวกันดีกว่านะ จะเกาะช้าง เกาะม้า อัมพวา อยุธยา ไหนๆก้อได้ ซะ2 วัน 1 คืน เอาม่ะyodtongnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-8384095967332364504.post-7923287117287777022008-10-06T03:26:00.000-07:002008-10-06T03:26:00.000-07:00วันนี้เปนวันจันทร์ที่ 6/10/08หวัดดีทุ๊กกกกคนค๊าเงี...วันนี้เปนวันจันทร์ที่ 6/10/08<BR/>หวัดดีทุ๊กกกกคนค๊า<BR/>เงียบหายกันไปเยยย<BR/>ไม่ส่งข่าวคราวกันบ้างเยยไม่รู้ว่าทุกคนสบายดีกันบ้างหรือป่าว เราอยู่พัทยาสบายดีนะ เรื่อยๆมาเรียงๆนกบินเชียงไปทั้งหมู่ แนะร้องเพลงอีกแหนะ วันนี้มีเรื่องขำๆมาฝากให้หายเครียดกันพอเปนน้ำจิ้มนะค๊าเรื่องมีอยู่ว่า......<BR/>ชายวัย 80 คนหนึ่งมาหาหมอเพื่อตรวจร่างกายประจำปี <BR/>“เป็นไงครับ สบายดีมั้ย” หมอถาม <BR/>“ฟิตปั๋งเลยแหละครับ” ชายแก่คุย<BR/>“ผมเพิ่งแต่งงานใหม่กับเจ้าสาวเอ๊าะๆ อายุแค่ 18 แถมตอนนี้เธอก็ตั้งท้องลูกของผมแล้วด้วย” ชายแก่อวดอย่างภูมิใจ<BR/><BR/>หมออึ้งไปพักใหญ่แล้วพูด “ผมมีเรื่องๆ นึงจะเล่าให้ฟัง ผมรู้จักผู้ชายคนนึง<BR/>เขาชอบเข้าป่าล่าสัตว์มาก อยู่มาวันนึง เขารีบไปหน่อย<BR/>แทนที่จะหยิบปืนดันคว้าผิดเอาร่มไปแทน พอเข้าไปในป่า อยู่ๆ มีหมีตัวนึงโผล่ออกมาตรงหน้าเขา<BR/>เขาตกใจหยิบร่มขึ้นมาแล้วกดไกทีนี้ลองทายดูซิว่าเกิดอะไรขึ้น” หมอถาม<BR/><BR/>“ไม่รู้สิ” ชายแก่เดาไม่ถูก<BR/>หมอตอบ “หมีโดนกระสุนล้มลงตาย!”<BR/>“เป็นไปได้ไง!!” ชายแก่ไม่เห็นด้วย “คนอื่นยิงล่ะม้าง”<BR/>“ผมก็ว่างั้นแหละ ! ! ! “ หมอตอบ<BR/>5555555555555555555555555555555++++<BR/>คิดเอาเองละกัน ตอบถูกเอาไปเลยย100คะแนน<BR/>555+Anonymousnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-8384095967332364504.post-33786533080915362472008-09-26T21:15:00.000-07:002008-09-26T21:15:00.000-07:00หวัดดีคับผมธนัช เด็ก หนองมนเสียดายที่ไม่ได้ไปงาน ช...หวัดดีคับผมธนัช เด็ก หนองมนเสียดายที่ไม่ได้ไปงาน ช่วงนี้งานยุ่งมากเลย ต้องขอโทษพี่ไพบูลย์และพรรคพวกด้วย วันนี้ผมขอเสนอวิธีการประหยัดพลังงานของการใช้แอร์ ดังนี้ครับ<BR/> 11 วิธีประหยัดค่าแอร์<BR/> 11 วิธีประหยัดค่าแอร์โดยไม่ต้องลงทุน<BR/> 11 วิธีต่อไปนี้ จะช่วยเราประหยัดพลังงานและพลังเงินของเราโดยไม่ต้องลงทุน หลายวิธีที่จะกล่าวถึงนี้ อาจเป็นวิธีง่ายๆ ที่เราคิดไม่ถึงหรือเห็นเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ถ้าเราพร้อมใจกันปฏิบัติอย่างถูกต้อง จะช่วยประหยัดพลังงานและค่าไฟได้อย่างไม่น่าเชื่อ<BR/> 1. ปิดพัดลมระบายอากาศเมื่อไม่จำเป็น<BR/>ในห้องปรับอากาศมักติดตั้งพัดลมระบายอากาศไว้สำหรับระบายอากาศออกจากห้องปรับอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งห้องที่มีกลิ่นหรือควันจากการสูบบุหรี่ เมื่อมีการระบายอากาศออกจากห้อง ก็จะมีอากาศในปริมาณเท่ากันไหลเข้ามาในห้อง เพื่อทดแทนอากาศส่วนที่ถูกระบายทิ้งออกไป อากาศจากภายนอกที่ไหลเข้ามาแทนที่นี้ ทำให้เครื่องปรับอากาศต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อทำให้อากาศร้อนจากภายนอกที่เข้ามาเย็นลงจนเท่ากับอากาศภายในห้อง<BR/> พัดลมระบายอากาศนี้มีความจำเป็น หากเป็นห้องที่มีคนใช้งานมาก หรือมีกลิ่นจากเอกสาร, อาหาร หรือควันบุหรี่ แต่หากเป็นห้องที่มีคนใช้งานไม่มาก และไม่มีกลิ่นรบกวน ก็ไม่จำเป็นต้องเปิดพัดลมระบายอากาศ ทั้งนี้เนื่องจาก โดยธรรมชาติจะมีอากาศรั่วซึมผ่านทางกรอบประตูหน้าต่างอยู่ในปริมาณหนึ่งอยู่แล้ว ซึ่งเพียงพอสำหรับใช้ในการหายใจ<BR/>นอกจากนี้ หากเป็นห้องประชุม ในขณะที่เปิดเครื่องปรับอากาศ เพื่อให้อากาศเย็นก่อนจะมีคนเข้าใช้ห้อง ก็ไม่จำเป็นต้องเปิดพัดลมระบายอากาศ ให้รอจนมีคนเข้าใช้ห้องประชุมเป็นจำนวนมากก่อน จึงเปิดพัดลมระบายอากาศก็ได้<BR/> 2. ตั้งปิดจอคอมพิวเตอร์ เมื่อไม่ใช้งาน<BR/>ในสำนักงานสมัยใหม่ มีการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์กันมากขึ้น ความร้อนจากเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นภาระมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับเครื่องปรับอากาศ เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหนึ่งเครื่อง จะปล่อยความร้อนออกมาโดยประมาณ 250 วัตต์ โดยส่วนใหญ่จะเป็นความร้อนจากจอมอนิเตอร์ประมาณ 180-200 วัตต์<BR/>โดยปกติแล้ว เครื่องคอมพิวเตอร์จะไม่ได้ถูกใช้งานตลอดเวลา ดังนั้นผู้ผลิตโปรแกรม จึงมีส่วนที่ให้ผู้ใช้สามารถตั้งโปรแกรมให้จอมอนิเตอร์ปิดโดยอัตโนมัติ เมื่อไม่ได้สัมผัสคีย์บอร์ด หรือเมาส์ในระยะเวลาหนึ่ง<BR/>สำหรับผู้ใช้ Window 98 การตั้งเวลาสามารถทำได้ ดังนี้<BR/>1. เลือก My computer<BR/>2. เลือก Control Panel<BR/>3. เลือก Power Management<BR/>4. ตั้งค่า Power schemes เป็น Home/Office Desk<BR/> 3.ตั้งอุณหภูมิ 28C แล้วเปิดพัดลมเสริม<BR/>ความเย็นสบาย หรือความสบายเชิงความร้อน (Thermal Comfort) เกิดขึ้นได้จากการมีปัจจัยหลัก 3 ประการที่สมดุลกัน คือ<BR/>1. อุณหภูมิ<BR/>2. ความชื้นสัมพัทธ์<BR/>3. ความเร็วลม<BR/>หากต้องการระดับความสบายเท่าเดิม เมื่อปัจจัยหนึ่งเปลี่ยนก็สามารถเปลี่ยนปัจจัยอื่นเป็นการทดแทนได้<BR/>การตั้งอุณหภูมิในห้องสูงขึ้น จะประหยัดพลังงานได้ โดยปกติแล้วก็จะตั้งได้สูงสุดประมาณ 25-26 C มิฉะนั้นจะร้อนเกินไป<BR/>แต่ถ้าเราเปิดพัดลมช่วยเพิ่มความเร็วลมในห้อง เราจะสามารถตั้งอุณหภูมิได้สูงถึง 28-30 C โดยยังเย็นสบายเหมือนเดิม (มีระดับความสบายเชิงความร้อนเท่ากัน) โดยจะช่วยประหยัดพลังงานได้มาก<BR/> 4. นำตู้มาตั้งชิดผนังด้านตะวันออกหรือตะวันตก<BR/>ผนังด้านที่มีความร้อนเข้ามามากทีสุดคือ ด้านตะวันออก และตะวันตก นอกจากความร้อนที่ผ่านผนังเข้ามาแล้ว เวลาที่แสงอาทิตย์ส่องถูกผนัง จะทำให้ผนังมีอุณหภูมิร้อนขึ้นมาก และจะแผ่รังสีความร้อนมาสู่ตัวคน ซึ่งจะทำให้คนรู้สึกร้อนขึ้น แม้อุณหภูมิในห้องจะเท่าเดิม ในห้องที่มีสภาพนี้จะต้องตั้งอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศที่ประมาณ 21-22 C จึงจะรู้สึกเย็นสบาย แต่เป็นการสิ้นเปลืองพลังงานมากขึ้น<BR/>การนำตู้ไปตั้งชิดผนัง จะช่วยป้องกันการแผ่รังสีความร้อนจากผนังได้ ดังนั้นจึงไม่ต้องตั้งอุณหภูมิต่ำกว่าปกติ ในห้องที่ผนังห้องไม่ร้อน การตั้งอุณหภูมิที่ 25 C ก็จะเย็นสบายเพียงพอ<BR/>นอกจากป้องกันการแผ่รังสีความร้อนจากผนังแล้ว การมีตู้ตั้งชิดผนัง ยังเสมือนว่ามีผนังหนาขึ้น จึงเป็นการช่วยลดความร้อนที่ผ่านผนังเข้ามาได้ด้วย<BR/>อย่างไรก็ตาม การนำตู้ไปตั้งติดผนังห้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผนังด้านนั้นมีกระจกด้วย จะทำให้อุณหภูมิภายในตู้สูงกว่าอุณหภูมิห้อง ดังนั้น จึงควรระมัดระวังกรณีที่สิ่งของภายในตู้ไม่สามารถทนความร้อนได้<BR/> 5. ปิดแอร์เมื่อไม่ใช้ และอย่าเปิดประตูหน้าต่างทิ้งไว้ในขณะปิดแอร์<BR/>ระบบปรับอากาศ (แบบน้ำเย็น) ใช้พลังงานประมาณ 1 หน่วยต่อตันต่อชั่วโมง ตัวอย่างเช่นเครื่องปรับอากาศขนาด 5 ตัน เปิดใช้งาน 4 ชั่วโมง จะใช้พลังงานไฟฟ้าประมาณ 1 x 5 x 4 = 20 หน่วย คิดเป็นเงินประมาณ 20 x 3 = 60 บาท (ค่าไฟเฉลี่ยประมาณ 3 บาทต่อหน่วย) ในอาคารทั่วไปๆ ค่าไฟฟ้าที่จ่ายไปกว่าครึ่งหนึ่งเป็นค่าไฟของระบบปรับอากาศ<BR/>การปิดเครื่องปรับอากาศเมื่อไม่ใช้ห้องปรับอากาศจะสามารถช่วยประหยัดพลังงานได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ<BR/>แต่ในขณะที่ปิดเครื่องปรับอากาศนั้น จะต้องไม่เปิดประตูหรือหน้าต่างทิ้งไว้ มิฉะนั้นความร้อนและความชื้นจากภายนอกจะเข้าไปในห้องปรับอากาศและจะสะสมอยู่ที่ พื้น, ผนัง, เฟอร์นิเจอร์, พรม, กระดาษ, ผ้าม่าน ฯลฯ เมื่อเปิดเครื่องปรับอากาศครั้งต่อไปเครื่องปรับอากาศก็จะต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อดึงเอาความร้อนและความชื้นนี้ออกไป ซึ่งจะเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานมากกว่าการเปิดเครื่องปรับอากาศอย่างต่อเนื่องเสียอีก<BR/> 6. ย้ายเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็นออกนอกห้องปรับอากาศ<BR/>อุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดจะปล่อยความร้อนออกมา เท่ากับพลังงานไฟฟ้าที่อุปกรณ์นั้นใช้ ดังนั้น ภาระส่วนหนึ่งที่สำคัญของเครื่องปรับอากาศจึงเกิดจากอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ภายในห้องปรับอากาศ <BR/>หากเราสามารถลดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในห้องปรับอากาศโดยการย้ายออกไปตั้งไว้นอกห้องปรับอากาศได้ก็จะเป็นการช่วยประหยัดพลังงานได้<BR/>ตัวอย่างอุปกรณ์ที่มักมีอยู่ในห้องปรับอากาศแต่สามารถย้ายออกไปได้ เช่น <BR/>1. ตู้เย็น<BR/>2. ตู้ทำน้ำเย็น<BR/>3. เครื่องถ่ายเอกสาร<BR/>4. หม้อต้มน้ำร้อน หรือเครื่องชงกาแฟ<BR/>5. ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ<BR/>6. หม้อหุ้งข้าวไฟฟ้า<BR/>7. ฯลฯ<BR/> 7. ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าและไฟแสงสว่างที่ไม่จำเป็น<BR/>เครื่องใช้ไฟฟ้าและหลอดไฟฟ้าแสงสว่าง จะปล่อยความร้อนเข้าสู่ห้องปรับอากาศ เท่ากับพลังงานที่อุปกรณ์ไฟฟ้าและหลอดไฟใช้ และความร้อนนั้นก็จะกลายเป็นภาระของเครื่องปรับอากาศ และต้องเสียพลังงานในการนำความร้อนนี้ทิ้งออกไปข้างนอกอีก<BR/>จะเห็นได้ว่า การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าหรือไฟฟ้าแสงสว่าง ในห้องปรับอากาศจะเป็นการเสียค่าไฟสองต่อ คือ <BR/>- เสียค่าไฟที่อุปกรณ์หรือหลอดไฟใช้<BR/>- เสียค่าไฟที่เครื่องปรับอากาศเพื่อนำความร้อนออกไปทิ้งนอกห้อง<BR/>ดังนั้น การปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าและไฟแสงสว่างที่ไม่จำเป็นในห้องปรับอากาศจึงเป็นการประหยัดสองต่อ คือ ประหยัดที่ตัวอุปกรณ์และประหยัดที่เครื่องปรับอากาศ<BR/> 8. งดสูบบุหรี่ในห้องปรับอากาศ<BR/>เมื่อมีการสูบบุหรี่ในห้องปรับอากาศก็จะต้องเปิดพัดลมระบายอากาศ เพื่อระบายควันและกลิ่นออกจากห้อง การระบายอากาศส่วนหนึ่งออกจากห้อง ก็จะทำให้มีอากาศจากภายนอกใหลเข้ามาในห้องทดแทนซึ่งจะทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักขึ้น<BR/>หากงดสูบบุหรี่ในห้องปรับอากาศก็ไม่จำเป็นต้องเปิดพัดลมระบายอากาศหรือเปิดเพียงช่วงสั้นๆ ก็เพียงพอซึ่งจะช่วยประหยัดพลังงานได้<BR/>นอกจากนี้ การงดสูบบุหรี่ในห้องปรับอากาศ ยังลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศ จึงทำให้มีฝุ่นละอองไปจับที่คอยล์น้อยเครื่องปรับอากาศ จึงมีประสิทธิภาพสูงอยู่เสมอ และช่วยยืดระยะเวลาการบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศไปได้<BR/>9. สวมเสื้อผ้าบางๆ<BR/>การสวมเสื้อผ้าบางๆ จะช่วยให้ร่างกายระบายความร้อนได้ดีขึ้น จึงสามารถตั้งอุณหภูมิให้สูงขึ้นได้ทำให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น <BR/>ดั้งนั้น จึงควรรณรงค์ให้ผู้ที่ทำงานในห้องปรับอากาศหันมาใส่เสื่อผ้าบางๆ ไม่ควรใส่สูท เพื่อที่จะตั้งอุณหภูมิให้สูงขึ้นได้<BR/> 10. ปิดประตูหน้าต่างให้สนิท<BR/>หากปิดประตูหรือหน้าต่างไม่สนิท จะทำให้มีอากาศร้อนชื้นจากภายนอกรั่วใหลเข้าไปในห้องได้ซึ่งจะทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักขึ้น และสิ้นเปลืองพลังงานมากขึ้น<BR/>มาตรการนี้ดูจะเป็นเรื่องง่ายๆ ที่ไม่น่าจะต้องกล่าวถึงอีกแต่กลับเป็นปัญหาที่พบบ่อย และละเลยกันมากที่สุด<BR/>นอกจากการปิดประตูหน้าต่างไม่สนิทรอยรั่วรอบๆ กรอบประตูและหน้าต่างก็เป็นปัญหาที่พบบ่อยๆ หากพบว่ามีรอยแยกและมีลมรั่วจากภายนอกเข้ามา ก็ควรดำเนินการแก้ไข เพื่อช่วยกันประหยัดพลังงาน<BR/>11. ปิดผ้าม่าน<BR/>การปิดผ้าม่าน จะช่วยลดการแผ่รังสีความร้อนจากภายนอกเข้ามาสู่ตัวคนโดยตรงได้ และยังช่วยลดการแผ่รังสีความร้อนจากผิวกระจกมาสู่ตัวคนด้วย ซึ่งทำให้ไม่ต้องตั้งอุณหภูมิต่ำกว่าปกติเพื่อชดเชยการแผ่รังสีความร้อนจึงช่วยประหยัดพลังงานได้<BR/>นอกจากลดการแผ่รังสีความร้อนมาสู่ตัวคนแล้ว ผ้าม่านยังช่วยสะท้อนความร้อนกลับออกไปภายนอกได้ด้วย (ถึงแม้ว่าจะไม่มากนัก) จึงเป็นการช่วยประหยัดพลังงานได้อีกทางหนึ่ง<BR/>การที่ทราบว่าการออกกำลังการเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพแต่ไม่ปฏิบัตินั้นย่อมไม่ทำให้เกิดสุขภาพดีได้ ฉันใดก็ฉันนั้น การที่ทราบวิธีการประหยัดพลังงานแต่ไม่ปฏิบัติก็ย่อมไม่สามารถช่วยอนุรักษ์พลังงานได้ 11 วิธีประหยัดค่าแอร์โดยไม่ต้องลงทุนนี้ มีประโยชน์อย่างแน่นอน สามารถช่วยอนุรักษ์พลังงานได้ ช่วยให้คนรุ่นต่อไปมีพลังงานเหลือใช้นานขึ้น ช่วยลดการสูญเสียเงินตราต่างประเทศ ช่วยลดมลพิษและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากการผลิตไฟฟ้า ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมที่ดีไว้ให้ลูกหลานของเราAnonymousnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-8384095967332364504.post-32061345602803568792008-09-22T00:53:00.000-07:002008-09-22T00:53:00.000-07:00หวัดดีกั๊บพี่น้อง NEC วันนี้ว่างจัดเลยมานั่งเขียนอ...หวัดดีกั๊บพี่น้อง NEC <BR/>วันนี้ว่างจัดเลยมานั่งเขียนอะไรเล่นๆดีฝ่า อาจจะไร้สาระบ้าง อ้อ!ไม่บ้างหรอก ไร้สาระล้วนๆๆแต่ก้อหายเครียดได้เล็กน้อย คิดถึงทุ๊กกกคนนะกั๊บเรื่องมีอยู่ว่า......<BR/>มีอสุจิอยู่3ตัวซึ่งเป็นเพื่อนรักกันมากทั้ง3ตัวมีชื่อว่าแดง<BR/>เขียวและเหลือง<BR/>ซึ่งเหลืองนั้นจะมีความเชื่องช้ากว่าอสุจิตัวอื่นๆมาก เมื่อถึงเวลาที่จะได้ไปเกิดก็ไม่ได้ไปซักที เพราะความเชื่องช้ากว่าเพื่อนๆนี่เอง วันหนึ่งทั้ง3ตัวได้คุยกันว่า เฮ้ย!เหลือง<BR/>ทีหลังหัดพุ่งเร็วๆหน่อยซิ จะได้ไปเกิดซักทีแดง<BR/>บอกแล้วเหลืองก็ตอบว่า เออ..จะพยายามมาวันหนึ่งก็ถึงเวลาที่ทั้ง 3 รอคอยเมื่อคนใกล้จะถึงจุด<BR/>ไคลแม็กซ์ แดงก็ตะโกนบอกเพื่อนเฮ้ย! เร็วใกล้เสร็จแล้ว เหลืองก็ตะโกนตอบว่าเดี๋ยวขอข้าไปก่อนนะ แล้วพวกเอ็งค่อยตามไปแล้วเหลืองก็นำหน้าไปก่อนแล้วซักพักก็ตะโกนกลับมาบอกกลับเพื่อนๆว่า<BR/>เฮ้ย!พวกเอ็ง อย่าตามมา ข้าเจอขี้ว่ะ<BR/>555+ หุหุ.+Anonymousnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-8384095967332364504.post-68372387617743690922008-09-19T05:56:00.000-07:002008-09-19T05:56:00.000-07:00ขอบคุณมากค่ะ พี่ไพบูลย์ที่เชิญไปเป็นแขกในงานเลี้ยง...ขอบคุณมากค่ะ พี่ไพบูลย์<BR/>ที่เชิญไปเป็นแขกในงานเลี้ยงขอ<BR/>รุ่น 2 ม.บูรพา รู้สึกดีใจอย่างยิ่งที่ได้รู้จักเพื่อนๆ ชาว NEC ทำให้เราได้มีเครือข่ายที่กว้างขึ้น และเพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกันในอนาคตต่อไป<BR/>ขอบคุณจริงๆค่ะ<BR/><BR/>น้องแบตมินตั้นSahanunhttps://www.blogger.com/profile/05162971870972884349noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-8384095967332364504.post-27360049782886368502008-09-15T00:37:00.000-07:002008-09-15T00:37:00.000-07:00หวัดดีทุ๊กกกคนดีใจที่ได้เจอ NEC วันเสาร์ที่ผ่านมา ...หวัดดีทุ๊กกกคน<BR/>ดีใจที่ได้เจอ NEC วันเสาร์ที่ผ่านมา และก็เสียใจเล็กน้อยที่ไปกันน้อยมาก นานๆเจอกันทีก็สนุกสนาน อย่างว่าต่างคนต่างมีภาระกิจด้วยกันทั้งนั้น บ้างก็ไม่สดวกมา บ้างก็ติดงาน,บ้างก็เดี๋ยวภรรยาบ่น,บ้างก็เดี๋ยวสามีด่า เกรงใจกันไป<BR/>ใครสดวกก็มาดีฝ่า สำหรับวันนี้เอาเรื่องสนุก สนุก คลายเครียดไปอ่านกัน 1 เรื่อง<BR/>ผู้หญิงสามคนนั่งบนม้านั่ง กำลังกินไอติมดุ้นยาวอยู่ <BR/><BR/>ผู้หญิงคนแรกเลียแท่งไอติม <BR/><BR/>ผู้หญิงคนที่สองกัดแท่งไอติม <BR/><BR/>ส่วนผู้หญิงคนที่สามดูดแท่งไอติม <BR/><BR/>ผมถามครูว่า ผู้หญิงคนไหนแต่งงานแล้ว" <BR/><BR/>ครูสาวมองหน้าเด็กชายต้น ถึงทำหน้าไม่ถูก <BR/><BR/>แต่หน้าครูสาวก็แดงระเรื่อขึ้น แล้วอึ้งไป <BR/><BR/>" ครู ครู ผมถามอีกทีก็ได้นะ <BR/><BR/>มีผู้หญิงสามคนนั่งบนม้านั่ง กำลังกินไอติมดุ้นยาวอยู่ <BR/><BR/>ผู้หญิงคนแรกเลียแท่งไอติม <BR/><BR/>ผู้หญิงคนที่สองกัดแท่งไอติม <BR/><BR/>ส่วนคนที่สามดูดแท่งไอติม <BR/><BR/>ผมถามครูว่า ผู้หญิงคนไหนแต่งงานแล้ว" <BR/><BR/>" เอาอย่างนี้แล้วกันนะเธอ " ครูเริ่มกระซิบที่ข้างหูเด็กชายต้น <BR/><BR/>" ครูว่าผู้หญิงคนที่ดูดไอติมแท่งน่ะ เป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว " <BR/><BR/>" ไม่ใช่ครับครู คนที่แต่งงานแล้ว <BR/><BR/>คือคนที่มีแหวนแต่งงานสวมอยู่ที่นิ้วมือไงครับ" <BR/><BR/>เด็กชายต้นอมยิ้ม พร้อมกับพูดตบท้าย <BR/><BR/>" ถึงครูจะตอบไม่ถูก แต่ผมก็ชอบวิธีคิดของครูนะ " <BR/>เอาหละขำขำกันพอหอมปากหอมคอนะคะพี่น้อง สุดท้ายขอให้สมาชิกทุ๊กกกคนมีความสุขนะค่ะAnonymousnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-8384095967332364504.post-41993638262217364202008-09-15T00:34:00.000-07:002008-09-15T00:34:00.000-07:00หวัดดีทุ๊กกกคน...ดีใจที่ได้เจอ NEC วันเสาร์ที่ผ่าน...หวัดดีทุ๊กกกคน...<BR/>ดีใจที่ได้เจอ NEC วันเสาร์ที่ผ่านมา และก็เสียใจเล็กน้อยที่ไปกันน้อยมาก นานๆเจอกันทีก็สนุกสนาน อย่างว่าต่างคนต่างมีภาระกิจด้วยกันทั้งนั้น บ้างก็ไม่สดวกมา บ้างก็ติดงาน,บ้างก็เดี๋ยวภรรยาบ่น,บ้างก็เดี๋ยวสามีด่า เกรงใจกันไป<BR/>ใครสดวกก็มาดีฝ่า สำหรับวันนี้เอาเรื่องสนุก สนุก คลายเครียดไปอ่านกัน 1 เรื่อง<BR/>ผู้หญิงสามคนนั่งบนม้านั่ง กำลังกินไอติมดุ้นยาวอยู่ <BR/><BR/>ผู้หญิงคนแรกเลียแท่งไอติม <BR/><BR/>ผู้หญิงคนที่สองกัดแท่งไอติม <BR/><BR/>ส่วนผู้หญิงคนที่สามดูดแท่งไอติม <BR/><BR/>ผมถามครูว่า ผู้หญิงคนไหนแต่งงานแล้ว" <BR/><BR/>ครูสาวมองหน้าเด็กชายต้น ถึงทำหน้าไม่ถูก <BR/><BR/>แต่หน้าครูสาวก็แดงระเรื่อขึ้น แล้วอึ้งไป <BR/><BR/>" ครู ครู ผมถามอีกทีก็ได้นะ <BR/><BR/>มีผู้หญิงสามคนนั่งบนม้านั่ง กำลังกินไอติมดุ้นยาวอยู่ <BR/><BR/>ผู้หญิงคนแรกเลียแท่งไอติม <BR/><BR/>ผู้หญิงคนที่สองกัดแท่งไอติม <BR/><BR/>ส่วนคนที่สามดูดแท่งไอติม <BR/><BR/>ผมถามครูว่า ผู้หญิงคนไหนแต่งงานแล้ว" <BR/><BR/>" เอาอย่างนี้แล้วกันนะเธอ " ครูเริ่มกระซิบที่ข้างหูเด็กชายต้น <BR/><BR/>" ครูว่าผู้หญิงคนที่ดูดไอติมแท่งน่ะ เป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว " <BR/><BR/>" ไม่ใช่ครับครู คนที่แต่งงานแล้ว <BR/><BR/>คือคนที่มีแหวนแต่งงานสวมอยู่ที่นิ้วมือไงครับ" <BR/><BR/>เด็กชายต้นอมยิ้ม พร้อมกับพูดตบท้าย <BR/><BR/>" ถึงครูจะตอบไม่ถูก แต่ผมก็ชอบวิธีคิดของครูนะ " <BR/>เอาหละขำขำกันพอหอมปากหอมคอนะคะพี่น้อง สุดท้ายขอให้สมาชิกทุ๊กกกคนมีความสุขนะค่ะAnonymousnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-8384095967332364504.post-77708638360332562442008-09-15T00:30:00.000-07:002008-09-15T00:30:00.000-07:00หวัดดีทุ๊กกกคนดีใจที่ได้เจอ NEC วันเสาร์ที่ผ่านมา ...หวัดดีทุ๊กกกคน<BR/>ดีใจที่ได้เจอ NEC วันเสาร์ที่ผ่านมา และก็เสียใจเล็กน้อยที่ไปกันน้อยมาก นานๆเจอกันทีก็สนุกสนาน อย่างว่าต่างคนต่างมีภาระกิจด้วยกันทั้งนั้น บ้างก็ไม่สดวกมา บ้างก็ติดงาน,บ้างก็เดี๋ยวภรรยาบ่น,บ้างก็เดี๋ยวสามีด่า เกรงใจกันไป<BR/>ใครสดวกก็มาดีฝ่า สำหรับวันนี้เอาเรื่องสนุก สนุก คลายเครียดไปอ่านกัน 1 เรื่อง<BR/>ผู้หญิงสามคนนั่งบนม้านั่ง กำลังกินไอติมดุ้นยาวอยู่ <BR/><BR/>ผู้หญิงคนแรกเลียแท่งไอติม <BR/><BR/>ผู้หญิงคนที่สองกัดแท่งไอติม <BR/><BR/>ส่วนผู้หญิงคนที่สามดูดแท่งไอติม <BR/><BR/>ผมถามครูว่า ผู้หญิงคนไหนแต่งงานแล้ว" <BR/><BR/>ครูสาวมองหน้าเด็กชายต้น ถึงทำหน้าไม่ถูก <BR/><BR/>แต่หน้าครูสาวก็แดงระเรื่อขึ้น แล้วอึ้งไป <BR/><BR/>" ครู ครู ผมถามอีกทีก็ได้นะ <BR/><BR/>มีผู้หญิงสามคนนั่งบนม้านั่ง กำลังกินไอติมดุ้นยาวอยู่ <BR/><BR/>ผู้หญิงคนแรกเลียแท่งไอติม <BR/><BR/>ผู้หญิงคนที่สองกัดแท่งไอติม <BR/><BR/>ส่วนคนที่สามดูดแท่งไอติม <BR/><BR/>ผมถามครูว่า ผู้หญิงคนไหนแต่งงานแล้ว" <BR/><BR/>" เอาอย่างนี้แล้วกันนะเธอ " ครูเริ่มกระซิบที่ข้างหูเด็กชายต้น <BR/><BR/>" ครูว่าผู้หญิงคนที่ดูดไอติมแท่งน่ะ เป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว " <BR/><BR/>" ไม่ใช่ครับครู คนที่แต่งงานแล้ว <BR/><BR/>คือคนที่มีแหวนแต่งงานสวมอยู่ที่นิ้วมือไงครับ" <BR/><BR/>เด็กชายต้นอมยิ้ม พร้อมกับพูดตบท้าย <BR/><BR/>" ถึงครูจะตอบไม่ถูก แต่ผมก็ชอบวิธีคิดของครูนะ " <BR/>เอาหละขำขำกันพอหอมปากหอมคอนะคะพี่น้อง สุดท้ายขอให้สมาชิกทุ๊กกกคนมีความสุขนะค่ะAnonymousnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-8384095967332364504.post-80091219187062662862008-09-15T00:28:00.000-07:002008-09-15T00:28:00.000-07:00หวัดดีทุ๊กกกคนดีใจที่ได้เจอ NEC วันเสาร์ที่ผ่านมา ...หวัดดีทุ๊กกกคน<BR/>ดีใจที่ได้เจอ NEC วันเสาร์ที่ผ่านมา และก็เสียใจเล็กน้อยที่ไปกันน้อยมาก นานๆเจอกันทีก็สนุกสนาน อย่างว่าต่างคนต่างมีภาระกิจด้วยกันทั้งนั้น บ้างก็ไม่สดวกมา บ้างก็ติดงาน,บ้างก็เดี๋ยวภรรยาบ่น,บ้างก็เดี๋ยวสามีด่า เกรงใจกันไป<BR/>ใครสดวกก็มาดีฝ่า สำหรับวันนี้เอาเรื่องสนุก สนุก คลายเครียดไปอ่านกัน 1 เรื่อง<BR/>ผู้หญิงสามคนนั่งบนม้านั่ง กำลังกินไอติมดุ้นยาวอยู่ <BR/><BR/>ผู้หญิงคนแรกเลียแท่งไอติม <BR/><BR/>ผู้หญิงคนที่สองกัดแท่งไอติม <BR/><BR/>ส่วนผู้หญิงคนที่สามดูดแท่งไอติม <BR/><BR/>ผมถามครูว่า ผู้หญิงคนไหนแต่งงานแล้ว" <BR/><BR/>ครูสาวมองหน้าเด็กชายต้น ถึงทำหน้าไม่ถูก <BR/><BR/>แต่หน้าครูสาวก็แดงระเรื่อขึ้น แล้วอึ้งไป <BR/><BR/>" ครู ครู ผมถามอีกทีก็ได้นะ <BR/><BR/>มีผู้หญิงสามคนนั่งบนม้านั่ง กำลังกินไอติมดุ้นยาวอยู่ <BR/><BR/>ผู้หญิงคนแรกเลียแท่งไอติม <BR/><BR/>ผู้หญิงคนที่สองกัดแท่งไอติม <BR/><BR/>ส่วนคนที่สามดูดแท่งไอติม <BR/><BR/>ผมถามครูว่า ผู้หญิงคนไหนแต่งงานแล้ว" <BR/><BR/>" เอาอย่างนี้แล้วกันนะเธอ " ครูเริ่มกระซิบที่ข้างหูเด็กชายต้น <BR/><BR/>" ครูว่าผู้หญิงคนที่ดูดไอติมแท่งน่ะ เป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว " <BR/><BR/>" ไม่ใช่ครับครู คนที่แต่งงานแล้ว <BR/><BR/>คือคนที่มีแหวนแต่งงานสวมอยู่ที่นิ้วมือไงครับ" <BR/><BR/>เด็กชายต้นอมยิ้ม พร้อมกับพูดตบท้าย <BR/><BR/>" ถึงครูจะตอบไม่ถูก แต่ผมก็ชอบวิธีคิดของครูนะ " <BR/>เอาหละขำขำกันพอหอมปากหอมคอนะคะพี่น้อง สุดท้ายขอให้สมาชิกทุ๊กกกคนมีความสุขนะค่ะAnonymousnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-8384095967332364504.post-29758722996431506872008-09-11T07:35:00.000-07:002008-09-11T07:35:00.000-07:00้ฮาโหลเทส...วันเสาร์ทำงานเลิก2ทุ่มถึงงาน3ทุ่ม..จาเ...้ฮาโหลเทส...วันเสาร์ทำงานเลิก2ทุ่มถึงงาน3ทุ่ม..จาเจอใครมั๊ยเนี่ย<BR/> อ่านเรื่องจ่ายค่ายาล่วงหน้าแล้วประทับใจดีมากครับ ถ้ามีคนดีๆในสังคมเยอะๆทุกคนก็จะมีความสุข...<BR/> ไม่ได้เข้ามาเยี่ยมพี่ไพบูลย์(หมายถึงเวปนะ..ไม่ใช่คุก)ซะนาน..เดี๋ยวนี้พัฒนาไปไกลเลยนะครับ..รู้มั้ยว่าผมใช้เวลาตั้ง2วัน..กว่าที่จะฝากความคิดเห็นเข้ามาได้ <BR/>(อ่อนหัดซะไม่มี)แล้วเมื่อไหร่จะสอนผมซะที่ล่ะค้าบบบ<BR/>..Anonymousnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-8384095967332364504.post-46102879199867357712008-09-11T03:02:00.000-07:002008-09-11T03:02:00.000-07:00หวัดดีคับ ผมธนัช เด้กหนองมน หวัดดีหนุ่มๆสาวๆคนชราท...หวัดดีคับ ผมธนัช เด้กหนองมน หวัดดีหนุ่มๆสาวๆคนชราทุกคนคุณเอ๋เด็กพัทยาสาธยายมีแต่เรื่องรัก.รักฟัน.ฟันแทงทั้งน๊านนนน ใจร้ายโหดร้ายคนข้างจะเป็นคนอ่อนไหวเล็กน้อยและปานกลาง ไปอ่อนข้อความอาแป๊ะ..ซอยถี่มันส์มากน่ะจาไปซอยไหน ถี่ยิบเลยไม่นับ<BR/> เอาล่ะเข้าเรื่องสาระหน่อยน่ะบางคนอาจจาไม่ทราบน่ะครับวันนี้ขออธิบายเรื่อง BTU.ครับแล้วมันคืออาไรลาก๊ะ ขอตอบ,..<BR/> บีทียู (BTU:British Thermal Unit)ก็คือหน่วยที่ใช้วัดปริมาณความร้อนหนึ่งหน่วย(ซึ่งเป็นที่นิยมใช้กันมากในระบบปรับอากาศ)สามารถเทียบได้กับหน่วยแคลอรี่หรือหน่วยจูลในระบบสากล โดยที่ความร้อน 1 BTU. คือปริมาณความร้อนที่ทำให้น้ำ 1 ปอนด์ มีอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง 1 องศาฟาเรนไฮด์ สำหรับเครื่องปรับอากาศนั้นจะวัดกำลังความเย็นหรือความสามารถในการดึงความร้อน (ถ่ายเทความร้อน)ออกจากห้องปรับอากาศในหน่วยบีทียูต่อชั่วโมง (Btu/hr)ซึ่งเทียบเท่ากับหน่วยวัตต์ในระบบสากลเช่น เครื่องปรับอากาศขนาด 12,000 บีทียูต่อชั่วโมงหมายความว่าเครื่องปรับอากาศเครื่องนั้นมีความสามารถในการดึงความร้อนออกจากห้องปรับอากาศ 12,000 บีทียูในเวลา 1 ชั่วโมงแต่โดยทั่วไปในท้องตลาดมักใช้คำว่าบีทียูต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นการใช้ที่ผิดหลักวิชาการแต่ว่าเป็นที่เข้าใจกันโดยทั่วไปละก๊ะ<BR/> เอาละวันนี้เบาๆแค่นี้ก่อนครับพี่ไพบูลย์ การเมืองค่อนข้างจะคลายความตึงเครียตลงเล็กน้อยแล้วต่อๆไปอาจจามีอาไรดีขึ้นเรื่อยๆก็ได้คับ ขอให้เพื่อนโชคดีมีกาตังค์ใช้เยอะทุกคนคับclean-bigbosshttps://www.blogger.com/profile/04515387739224888974noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-8384095967332364504.post-73091309187769535542008-09-10T20:39:00.000-07:002008-09-10T20:39:00.000-07:00อยากเปลี่ยนอ่ะ ไม่ชอบสีเขียวเลย มันดูแก่นะ ชมพู...อยากเปลี่ยนอ่ะ ไม่ชอบสีเขียวเลย มันดูแก่นะ ชมพู ฟ้า ม่วงอ่อน ได้ม๊ะ ขอร้องAnonymousnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-8384095967332364504.post-11420282298539188852008-09-08T05:46:00.000-07:002008-09-08T05:46:00.000-07:00พี่น้อง! มีกลอนดีๆมาฝากเอาไปเลยคะ 1 เรื่องสำหรับพี...พี่น้อง! มีกลอนดีๆมาฝากเอาไปเลยคะ 1 เรื่องสำหรับพี่น้องชาว NEC ของเรา<BR/><BR/>รักคืออะไร <BR/><BR/>> >> >>>>ถ้ารัก คือ...ฟัน <BR/>> >> >>>>รักคงมั่น คือ...ฟันแท้ <BR/>> >> >>>>รักร่อแร่ คือ...ฟันโยก <BR/>> >> >>>>รักโสโครก คือ...ฟันดำ <BR/>> >> >>>>รักถลำ คือ...ฟันเหยิน <BR/>> >> >>>>รักหมางเมิน <BR/>> >>คือ...ฟัน***ง <BR/>> >> >>>>รักร้าง คือ...ฟันหลอ <BR/>> >> <BR/>> >>>>รักหงิกงอ คือ...ฟันกุด <BR/>> >> >>>>รักบริสุทธิ์ คือ...ฟันขาว <BR/>> >> >>>>รักชั่วคราว คือ...ฟันปลอม <BR/>> >> >>>>รักอ่อนซ้อม คือ...ฟันร่วง <BR/>> >> >>>>รักสีม่วง คือ...ฟันเก* <BR/>> >> >>>>รักจำเจ คือ...ฟันซ้อน <BR/>> >> >>>>รักสลอน คือ...ฟันแทรก <BR/>> >> >>>>รักแรก คือ...ฟันน้ำนม <BR/>> >> >>>>รักระบม คือ...ฟันผุ <BR/>> >> >>>>รักคิกขุ คือ...ฟันกระต่าย <BR/>> >> >>>>รักสลาย คือ...ฟันหลุด <BR/>> >> >>>>รักชำรุด คือ...ฟันสึก <BR/>> >> >>>>รักเจ็บลึก คือ...ฟันคุด <BR/>> >> >>>>รักตุ๊ด คือ...ฟันหนุ่ม <BR/>> >> >>>>รักทั้งกลุ่ม คือ...ฟันหมด <BR/>> >> >>>>รักสลด คือ...ฟันพลาด <BR/>> >> >>>>รักต่างชาติ คือ...ฟันฝรั่ง <BR/>> >> >>>>รักปิดบัง <BR/>>คือ...ฟันชู้ <BR/>> >> >>>>รักอุดอู้ คือ...ฟันช้า <BR/>> >> >>>>รักกะฮา <BR/>> >>คือ...ฟันเล่น <BR/>> >> >>>>รักไม่เป็น คือ...ฟันดะ <BR/>> >> >>>>รักเธออยู่เสมอ จริงๆ นะ...ฟันธง (รักคนมีเจ้าของ <BR/>> >>...คุณจาโดนฟัน) <BR/>> >> >>>>รักนะ จุ๊บ.....บ <BR/>> >> >> <BR/>> >> >>_________________________________________________________________Anonymousnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-8384095967332364504.post-14025151168542448692008-09-07T21:57:00.000-07:002008-09-07T21:57:00.000-07:00อ่านความคิดเห็นแล้วก้อล้วนมีสาระบ้างไม่สาระบ้าง ก้...อ่านความคิดเห็นแล้วก้อล้วนมีสาระบ้างไม่สาระบ้าง ก้อคลุกเคล้ากันไป เฮ้อ!ช่วงนี้น่าเบื่อมากการเมืองจัง เมื่อไหร่จะหยดซักที กระทบไปหมดเลย เอาหละ!สำหรับวันนี้มีเรื่องสนุกๆลามกนิดหน่อยมาฝากเพื่อนๆให้หายเครียดกันสักเรื่อง...เริ่มเล่าเลยนะ<BR/><BR/>เรื่องมีอยู่ว่า................................. *-* อาแปะคนนึง ถูกจับตัวมาพร้อมกับหญิงสาว โจรก็สั่งให้อาแปะ <BR/>จับหญิงสาวน่ะ xxx ซะ อาแปะแกก็ไม่ยอม <BR/>อาแปะ : อั๊วม่ายทาม <BR/>โจร : ไม่ทำ ลื้อ ตาย <BR/>อาแปะ : ทำก็ล่าย <BR/>โจร : แปะ...ถอดเสื้อ <BR/>อาแปะ : อั๊ว ม่าย ถอด <BR/>โจร : ไม่ถอด ลื้อ ตาย <BR/>อาแปะ : ถอด ก็ ล่าย <BR/>******* แปะก็ถอดเสื้อ ตามระเบียบ.......... <BR/>โจร : แปะ...ถอดกางเกง <BR/>อาแปะ : อั๊วม่ายถอด <BR/>โจร : ไม่ถอด ลื้อ ตาย <BR/>อาแปะ : ถอด ก็ ล่าย <BR/>*-*-*-*-*-* แปะก็ถอดกางเกง........................... <BR/>โจร : แปะ.......จัดการ แทง <BR/>อาแปะ : อั๊วม่ายแทง <BR/>โจร : ไม่แทง ลื้อ ตาย <BR/>อาแปะ : แทงก็ ล่าย <BR/>*-*-*-*-*-*- แปะก็เอา......น่ะ แทงเข้าไป จึ้ก! <BR/>โจร : แปะ ซอย <BR/>อาแปะ : อั๊ว ม่าย ซอย <BR/>โจร : ไม่ซอย ลื้อ ตาย <BR/>อาแปะ : ซอย ก็ ล่าย <BR/>แปะก็ ซอยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จนกระทั่ง......... <BR/>โจร : แปะ หยุดซอยได้ <BR/>อาแปะ : อั๊วม่ายหยุด <BR/>โจร : ไม่หยุด ลื้อ ตาย <BR/>อาแปะ : อั๊ว ยอม ตาย <BR/>555+<BR/>5<BR/>5<BR/>ฮิฮิAnonymousnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-8384095967332364504.post-79243624075558965172008-09-07T05:05:00.000-07:002008-09-07T05:05:00.000-07:00ตอบนอกเรื่องจริงๆเล้ย...ไม่เชื่อหรอกว่าไม่รู้จักภา...ตอบนอกเรื่องจริงๆเล้ย...<BR/>ไม่เชื่อหรอกว่าไม่รู้จักภาษา HTML<BR/>(Hypertext Markup Language ต่างหากเล่า ชิ)<BR/>ใช้ได้ไม่กี่แท็กอ่ะ ไม่สนุกเลยAnonymousnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-8384095967332364504.post-31736069428442769882008-09-06T08:45:00.000-07:002008-09-06T08:45:00.000-07:00อยากเห็นหน้าเว็บมาสเตอร์อ่ะทำไมใช้แท็ก HTML ไม่ได้...อยากเห็นหน้าเว็บมาสเตอร์อ่ะ<BR/>ทำไมใช้แท็ก HTML ไม่ได้ตั้งหลายแท็กคะ<BR/>ตอบหน่อย อยากรู้ๆๆAnonymousnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-8384095967332364504.post-71813625477422341402008-09-06T00:18:00.000-07:002008-09-06T00:18:00.000-07:00ฝากสายลมส่งความรู้สึกไปหาเธอจะได้ไหมฝากสายฝนบอกกับ...ฝากสายลมส่งความรู้สึกไปหาเธอจะได้ไหม<BR/><BR/>ฝากสายฝนบอกกับเธอว่าฉันนั้นห่วงใย<BR/><BR/>แม้ตัวห่างสุดแสนไกล "ใจผูกพัน"<BR/><BR/>กลอนซึ้งๆมอบให้ทุ๊กกกคนAnonymousnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-8384095967332364504.post-45732892967100191762008-09-06T00:08:00.000-07:002008-09-06T00:08:00.000-07:00วันนี้มีอะไรมาเล่าสู่กันฟังนะคำแนะนำจากวิศวกรในโรง...วันนี้มีอะไรมาเล่าสู่กันฟังนะ<BR/>คำแนะนำจากวิศวกรในโรงงานแบตเตอรี่ในการยืดอายุแบตมือถือให้เสื่อมช้าลง ด้วยการปฏิบัติดังนี้<BR/><BR/>1. นำแบตฯ ห่อด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ แล้วใส่ไว้ในถุงพลาสติก แล้วนำไปแช่ในช่องแช่แข็งในตู้เย็นเป็นเวลา 3 วัน (ไม่ต้องกลัวแบตฯชื้น) ซึ่งตรงนี้กระดาษหนังสือพิมพ์จะช่วยดูดความชื้นส่วนเกินให้<BR/><BR/>2. หลังจากทิ้งแบตฯไว้ในตู้เย็นครบสามวันแล้ว นำแบตฯออกมาทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องอีก 2 วัน<BR/><BR/>3. เมื่อทิ้งไว้ 2 วันแล้วชาร์จแบตฯให้เต็มแล้วนำไปใส่ในมือถืออีกครั้ง ลองสังเกตดูว่าแบตฯจะสามารถใช้งานได้นานถึง 80%-90% ของแบตฯใหม่เลยทีเดียว<BR/><BR/>ลองนำวิธีที่แนะนำไปปฏิบัติตามกันดูได้.<BR/>...เล็กๆน้อยๆ..คะลองนำมาทำกันดูนะคะ (เอ๋)คะAnonymousnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-8384095967332364504.post-54069458793360073812008-09-05T23:56:00.000-07:002008-09-05T23:56:00.000-07:00วันนี้วันเสาร์ที่ 6/9/51แป๊บๆจะหมดปีแล้วเดี๋ยวก้อป...วันนี้วันเสาร์ที่ 6/9/51<BR/>แป๊บๆจะหมดปีแล้วเดี๋ยวก้อปี 51 กำลังจะมาตามติดๆ<BR/>วันๆช่างผ่านไปได้รวดเร็วเหลือเกิน ไวเหมือนโกหก<BR/>วันนี้มีอะไรมาฝากเพื่อนๆเล็กน้อยสำหรับเพื่อนๆคนไหนที่กำลังมีรักสามเส้าอยู่<BR/> <BR/> รักสามเส้าอย่างไร ไม่ให้เป็นรักสามเศร้า <BR/><BR/>หากชีวิตหนึ่งของคนเรามีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายหลายหลาก และหนึ่งในร้อยของเรื่องราวนั้นเป็นเรื่องที่มนุษย์เรายากที่จะออกแบบและเลือกรับไว้ได้ไหว เรื่องนั้นคงหนีไม่พ้นเรื่อง “ความรัก”<BR/><BR/>ใช่ค่ะ เรื่องรักมักออกแบบไม่ได้ เรื่องรักมักไม่เป็นอย่างที่ใจเราวาดไว้ โชคดีอาจออกมาเป็นรูปเป็นร่างแต่ก็ไม่ใช่แบบที่ต้องการเสมอไป จนมาถึงวันหนึ่ง วันที่เวทีพรหมลิขิตหมุนคุณให้พบเจอกับใครคนนั้น คนที่ใช่ แต่โชคร้ายในความโชคดี คือคุณพบเขา ผิดเวลา ไปเท่านั้นเอง นั่นหมายความว่า ความรักของคุณเป็น รักซ้อน เข้าแล้วล่ะค่ะ <BR/><BR/>ในเมื่อหัวใจเรียกร้อง และอย่างที่บอก มันคือเรื่องของพรหมลิขิต ที่บังเอิญมาเล่นตลกกับเราขีดให้บรรจบพบเจอกับคนมีเจ้าของแล้ว มันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้จริงๆ ที่คุณจะห้ามใจไม่ให้รัก หรือไม่ให้ตกหลุมรักคนที่ใช่ ในเวลาที่ผิดแบบนี้ได้ เพราะชาตินี้ทั้งชาติ เราอาจไม่มีโอกาสพบเจอคนๆ นี้อีก <BR/><BR/>“เอ๋” ขอเสนอแนวทางในการ รักช้ำ ๆ ไม่ให้ช้ำ ซึ่งไม่ได้ไปแย่งความรักจากใคร หรือ เสนอตัวเป็นมือที่ 3 แต่อย่างใด ถ้าความรักยังเป็นสิ่งที่สวยงามในใจคุณอยู่ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะแอบรักคนมีเจ้าของ หรือคนมีเจ้าของจะมาตกหลุม (รัก) คุณเสียเอง<BR/><BR/>10 เงื่อนไขรักซ้อน (แบบไม่ซ่อนเงื่อน)<BR/><BR/>1. อยู่บนพื้นฐานของความรัก <BR/>ก่อนที่คุณจะก้าวเข้าสู่วงโคจรรักซ้อนแบบนี้ คุณต้องถามตัวเองให้แน่ใจก่อนว่า นี่คือความรักใช่หรือไม่ เพราะถ้าเป็นแค่เกม เกมหนึ่งหรือแค่ความวูบวาบหวั่นไหวไปตามอารมณ์ อาจมีคนต้องเจ็บปวดเพราะความคะนองของคุณก็เป็นได้ แต่ถ้ามันเป็นความรักจริงๆ คุณจะควบคุมจิตใจคุณได้ และใช้เหตุผลเข้ามาช่วยตัดสินใจบ้าง<BR/><BR/>2. ใช้ความยับยั้งชั่งใจ <BR/>ระงับความรู้สึกที่มันพลุ่งพล่าน ถึงเวลาแล้วที่คุณต้องดึงจิตสำนึกส่วนนี้มาใช้ให้เป็นประโยชน์ แม้ว่าการใช้ชีวิตตามความรู้สึกจะนำพาคุณให้บรรลุความปรารถนาได้ก็ตามทีแต่เงื่อนไขของรักซ้อนคือความยับยั้งชั่งใจ จากนั้นใช้ความรู้สึกที่เหลือแสดงออกไป การทำเช่นนี้จะทำให้คุณมีคุณค่าและดูมีเหตุผล ในขณะที่คุณได้ทำตามความปรารถนาของคุณเองด้วย<BR/><BR/>3. หาคู่คิด <BR/>เพื่อหามุมมองต่างๆ มาหักลบกลบหนี้ และหาทางออกให้กับเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะถ้าคุณคิดอยู่คนเดียว อาจทำให้หน้ามืดตามัวขึ้นมาก็ได้ แต่อย่ากระโตกกระตากเป็นอันขาด เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องที่เข้าใจผิดได้ง่าย และหมิ่นเหม่เป็นอย่างยิ่ง ถ้ายิ่งมีคนไม่เข้าใจ คุณจะยิ่งเป็นทุกข์ คุณควรมีคู่คิดที่เป็นคู่คิดจริงๆ ว่าเขาจะเก็บรักษาเรื่องราวของคุณได้ ราวกับรักษาเรื่องของตัวเอง<BR/><BR/>4. มีขอบเขตและเงื่อนไข <BR/>กำหนดมันขึ้นมาเลย ว่าคุณจะให้ความรู้สึกหรือใจกับคนๆ นั้นได้แค่ไหน โดยที่ไม่เบียดเบียน หรือทำให้ใครต้องเจ็บปวด ให้รักครั้งนี้เป็นความรักที่หวือหวาที่สุดในชีวิตคุณ แต่เงียบที่สุดในชีวิตของเขา แล้วทำตามเงื่อนไขที่คุณกำหนดให้จงได้<BR/><BR/>5. ยอมรับความจริงและเผื่อใจ <BR/>ห้ามหลงตัวเอง ห้ามหลอกตัวเอง นั่นหมายความว่า คุณต้องรู้จักสถานะตัวเองดีพอที่จะประเมินสถานการณ์ทุกอย่างบนความจริงได้ และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในภายภาคหน้า ก็ตามแต่ คุณต้องรับมันและผ่านไปให้ได้ ไม่แน่ว่า ความรักครั้งนี้อาจเป็นหนทางทำให้คุณรู้จักตัวเองอีกแง่มุมหนึ่งของชีวิตที่คุณไม่เคยรู้ตัวมาก่อนก็เป็นได้ ในเมื่อคุณก้าวเข้ามาในวังวนความรักแบบนี้ คุณต้องรู้อยู่แก่ใจแล้วว่าความทุกข์จะต้องรออยู่ข้างหน้า ฉะนั้นเตรียมรับมือไว้ได้เลย แต่มันก็คุ้มค่าไม่ใช่หรือที่จะแลกกัน<BR/><BR/>6. อย่าคาดหวังเป็นอันขาด <BR/>เป็นเรื่องพื้นๆ ที่มีคนกล่าวว่าที่ความผิดหวังเกิดขึ้นได้ ก็เพราะเราคาดหวังมันเอง แล้วคุณจะหวังอะไรกับรักต้องห้ามครั้งนี้ได้ ห้ามแม้แต่จะคิดหวังจะให้เขามาเป็นของคุณ แค่ได้รักกันก็เป็นเรื่องที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นแล้ว<BR/><BR/>7. อย่าทำให้ใครต้องเจ็บปวดกับเรื่องนี้ <BR/>นี่คือเงื่อนไขที่สำคัญที่สุดสำหรับความรักแบบต้องห้าม มิเช่นนั้นความรักของคุณจะเป็นพิษทันที ถ้ามันจะทำให้ใครสักคนมีอันต้องเจ็บปวดขึ้นมา<BR/><BR/>8. ห้ามก้าวก่าย <BR/>ความหมายคล้ายๆ “กิ๊ก” เหมือนกัน เพียงแต่จริงจัง จริงใจกว่ากันหลายขุม ที่ต้องห้ามไปก้าวก่ายในชีวิตเข้าหรือเธอก็เพราะคุณไม่มีสิทธิ์ในชีวิตของเขาคนนั้น คุณแค่รักกัน แต่คุณไม่ใช่ของกันและกัน<BR/><BR/>9. ปรนเปรอความสุข<BR/>ให้คนที่คุณรักด้วยการสรรหาสิ่งดีๆ ให้ซึ่งกันและกันอย่างเต็มใจไม่ปรุงแต่งให้มากมาย ให้ความรักเป็นสิ่งสวยใส ไม่ขุ่นมัวจะดีกว่า เป็นการถนอมรักด้วย เขาจะรู้สึกดีแค่ไหน ที่มีคุณก้าวเข้ามาในชีวิต แล้วก็มอบแต่สิ่งดีๆ ให้เท่าที่ให้ได้จากตำแหน่งที่คุณยืนอยู่ เพราะคุณไม่สามารถที่จะล่วงล้ำอาณาเขตมากไปกว่านี้อีกแล้ว<BR/><BR/>10. เติมเต็มในสิ่งที่เขาขาดหาย <BR/>แน่นอนเขากำลังมองหาส่วนที่ขาดหายอยู่แน่ๆ ไม่งั้นเขาคงไม่คิดจะเปิดรับคุณเข้ามาได้หรอก เพราะฉะนั้นผู้โชคดีที่จะไปเติมส่วนขาดให้เขา คือคุณนั่นเอง เรื่องนั้นอาจเป็นเรื่องเล็กน้อยที่ชีวิตเขาไม่เคยพบเจอและหาไม่ได้จากคนที่เป็นตัวจริงของเขา เป็นความหวาน เป็นความประทับใจ ที่ตกหล่นหายจากชีวิตเขาไปเนิ่นนานแล้วก็ได้ ทำให้คุณเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ไม่ใช่ส่วนเกินที่ต้องตัดทิ้ง<BR/><BR/>แล้วรักสามเส้าจะได้ไม่กลายเป็นรักสามเศร้าให้คุณต้องกินข้าวเคล้าน้ำตา และกระอักกับความรักจนต้องหวาดผวากับมันไปจนชั่วชีวิต.......ความรักมักซับซ้อน ซ่อนเงื่อนไว้แบบนี้ แต่ในความซับซ้อนนั้น ก็ยังอยู่บนพื้นฐานของความเรียบง่ายอยู่ดี ถ้าความรักยังเป็นความรักอยู่<BR/><BR/>เวลาเราเดินหกล้ม ไม่ใช่ความผิดของถนนเส้นนั้นหรอก ความรักก็เช่นกัน มิใช่หรือ<BR/>...เล็กๆๆน้อยๆจากเด็กพัทยา (เอ๋)ค่ะAnonymousnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-8384095967332364504.post-60613478242714647362008-09-05T23:38:00.000-07:002008-09-05T23:38:00.000-07:00น่ารักดีน่ะลูกใครเนี่ย ช่วงนี้หลังจากพี่ไพบูลย์มีร...น่ารักดีน่ะลูกใครเนี่ย ช่วงนี้หลังจากพี่ไพบูลย์มีรูปดีๆแว๊บๆใน Web เราเนี่ยเพื่อนจะขึ้นมามากขึ้นเรื่อยๆน่ะตะโขงตะเข้มาเรื่อยๆเลยขอชมเชยความคิดยอดเลยครับที่จะนำเสนอสื่อๆดีมาใหม่Anonymousnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-8384095967332364504.post-32116662495485330382008-09-05T23:14:00.000-07:002008-09-05T23:14:00.000-07:00อีกแล้วก๊าบ ผมธนัช เด็กหนองมน ขอขอบคุณคนที่ชมแต่ไม...อีกแล้วก๊าบ ผมธนัช เด็กหนองมน ขอขอบคุณคนที่ชมแต่ไม่เอ๋ยนามกับสาระดีๆที่ส่งให้เพื่อนๆได้ลับสมองเล็กน้อยครับ แซวหน่อย ที่น้องตองบอกช่วยเคลียรืข้อกังแขนหน่อย ที่ว่าถึงก่อนมีสิทธิ์ก่อนน่ะ ส่วนขอชมพี่ไพบูลยนำรูปลูกสาวผมมาลงก๊าบ ค่อนข้างจะคล้ายน่ะ (ทำมากับมานิ) ช่วงนี้เพื่อนสมาชิกมาส่งข่าวมากขึ้นเรื่อยๆน่ะ ดีครับจะได้มีสาระเพิ่มมากขึ้น พี่ประเสริฐแก๊งดาวกระ___เป็นไงบ้างครับ แกเข้มมากเลย เจ๊เหมียวแกก็หายป่านนี้คงเอาผ้าเหลืองคาดหัวแย้วๆอยู่หน้าเวทีมั๊งส่วนคุณประยุทธแกลงรายชื่อมาเป็นคนแรกนั้นไม่รู้จะมาหรือเป่า น่าจะช่วยคนทางบ้านขายของมากกว่า วันนี้ฝากสาระเล็กน้อยจะได้ไม่เคลียตกันยิ่งช่วงนี้บ้านเมืองก็เคลียตมากอยู่แล้ว ทำไมต้องล้างแอร์ล่ะเสียกะตังค์เป่าๆช่วยเคลียร์ให้หน่อย เอาตังค์ไปซื้อโค๊กกินจะอิ่มกว่ามั๊ง<BR/> ปัจจุบันมลภาวะทางอากาศเช่น ฝุ่นละออง ควันพิษ เพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะในเมืองใหญ่ๆเช่น เมืองหลวงของเรา เป็นต้น แน่นอนมลภาวะเหล่านี้ไม่เป็นผลดีทั้งต่อมนุษย์และเครื่องใช้ โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศ ที่แทบทุกบ้านใช้กันอยู่ หลายๆสาเหตุของแอร์เกิดจากเพียงแค่แอร์สกปรกหรือแอร์ตันจากการสะสมของฝุ่นละอองเท่านั้นซึ่งเป็นเพียงแค่ปัญหาเล็กๆ<BR/>แต่ถ้าปล่อยไว้นาน ปัญหาเล็กๆ ก็จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ หรือเป็นจุดเริ่มต้นของแอร์เสียได้ ยิ่งทิ้งไว้นานก็ยิ่งลุกลามจนอาจจะต้องเปลี่ยนแอร์เนื่องจากไม่สามารถเยียวยาได้ นี่ก็คือสาเหตุที่ทำไมต้องล้างแอร์ นั่นก็คือเราจะเสียเงินค่าบำรุงรักษาแอร์น้อยกว่าการเสียเงินเพื่อซ่อมแซมแอร์นั่นเองรวมทั้งค่าไฟฟ้าด้วย<BR/> โดยปรกติบ้านเรือนทั่วไปที่มีเครื่องปรับอากาศ ควรจะบำรุงรักษาโดยการล้างแอร์เต็มระบบเป็นประจำอย่างน้อยปีล่ะ 1-2 ครั้งหรือปีละ 3-4 ครั้ง สำหรับบ้านเรือนที่อยู่ติดถนนหรืออาคารสำนักงานที่มีเครื่องปรับอากาศเต็มที่เป็นเวลานานๆ เอาล่ะวันนี้เบาๆก่อนน่ะอาจจะไร้สาระบ้างนิดหน่อยคราวหน้าจะมีสาระดีๆแบ่งปันให้เพื่อนๆใหม่ครับผมนายธนัช เด็กหนองมนสวัสดีครับขอบคุณพี่ไพบูลย์ที่ช่วยเผยแพร่สาระต่างๆของผมให้กับเพื่อนทุกๆคนครับclean-bigbosshttps://www.blogger.com/profile/04515387739224888974noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-8384095967332364504.post-44194310047242456732008-09-05T08:47:00.000-07:002008-09-05T08:47:00.000-07:00รับทราบคะ ร้านอยู่ใกล้บ้านดีจริงๆต้องไปตีซี้กะเด็ก...<B><BR/>รับทราบคะ ร้านอยู่ใกล้บ้านดีจริงๆ<BR/>ต้องไปตีซี้กะเด็กเสริฟก่อนละ<BR/>เผื่อเขาจะเปิดห้องให้ตั้งแต่บ่ายสามโมง<BR><BR/>จะได้เรียกดิแก๊งของมุกมาก่อน อิอิ<BR/><BR/>งานนี้ต้องเตรียมตังค์ไปกี่หมื่นคะ<BR/>ร้านนี้แพงมากอ่ะ..เริ่มเหงื่อตก ฮือๆ<BR/></B>Anonymousnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-8384095967332364504.post-178109009880587742008-09-04T19:28:00.000-07:002008-09-04T19:28:00.000-07:00เห็นภาษาเขียนแล้ว สุดยอดเลย ถ้าได้เห็นตัวจริงถึงกะ...เห็นภาษาเขียนแล้ว สุดยอดเลย ถ้าได้เห็นตัวจริงถึงกะผงะ คนอารายวัยสะรุ่นได้ใจจริงๆๆ อย่างว่าพี่เค้าก๊อบลูกชายมาเต็มๆ สิทธิ์ที่ได้คืออะไร เห็นนู๋ตองบอกว่าถึงก่อนมีสิทธิ์ก่อน อยากรู้จังมันคือ...อะไร.Anonymousnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-8384095967332364504.post-81462897042286596392008-09-04T01:54:00.000-07:002008-09-04T01:54:00.000-07:00ดีนะที่วันเสาร์ไม่ได้ทำงาน จะไปตั้งแต่ห้องเปิดเลย...ดีนะที่วันเสาร์ไม่ได้ทำงาน จะไปตั้งแต่ห้องเปิดเลย ถึงห้องก่อนมีสิทธิ์ก่อน ดีม๊ะ<BR/><BR/>tong - gaAnonymousnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-8384095967332364504.post-61074340325865627532008-09-03T19:40:00.000-07:002008-09-03T19:40:00.000-07:00เรียนคุณธนัชเด็กหนองมน ให้ความรู้ถ่ายทอดสู่เพื่อนๆ...เรียนคุณธนัชเด็กหนองมน ให้ความรู้ถ่ายทอดสู่เพื่อนๆได้ดีมาก ต้องขอชมเชย เป็นพิเศษ อยากให้ถ่ายทอดเรื่อยๆจะได้เพิ่มความรู้Anonymousnoreply@blogger.com