วันพุธที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2551

กำแพงของหัวใจ

:: ในสภาวปัจจุบันนี้สังคมและธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงกันมากจึงทำให้เราชาว NEC
ที่ทำธุรกิจอยุ่ต้องประสพกับปัญหาไปด้วยกันทุกคนขอให้ทุกคนใช้สติในการพินิจ
พิเคราะห์หรือตัดสินใจในการดำเนินธุรกิจต่อไปและสำหรับเพื่อนๆที่กำลังมองหาธุรกิจ
ใหม่ๆที่จะทำก็ขอให้ตัดสินใจให้ดีๆด้วยครับเพราะว่าทุกคนก็ได้ผ่านหลักสูตรของการ
อบรม NEC มาแล้วโดยขอให้ใช้หลักการที่เราได้รับการอบรมมาให้เป็นประโยชน์ให้
มากที่สุดผมคิดว่าจะนำพาท่านที่จะทำธุรกิจได้ประสพผลสำเร็จ ส่วนใครที่กำลังจะทำ
คือว่าจะทำอยู่เรื่อยๆคือว่าจะไม่เสร็จนั้นต้องขอฝากนิทานเรื่องนี้มาให้ได้คิดกันครับ
ผมคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่จะตัดสินใจทำธุรกิจใหม่ๆ

::ขอให้ทุกท่านโชคดีมีเงินใช้ทุกคนครับ::
>> จากเว็บมาสเต้อร์<<

: กำแพงของหัวใจ :

: ผู้หญิงคนหนึ่ง อาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็กๆน่ารักหลังหนึ่งริมทะเล กับสามีของเธอ

บ้านหลังนี้มีหน้าต่างอยู่บ้าง แต่ด้านที่หันเข้าหาทะเล กลับไม่มีหน้าต่างเลย
มีแต่กำแพงเก่าๆหนาๆอันหนึ่งตั้งอยู่ ผู้หญิงคนนี้เคยเอ่ยขึ้นมาว่า
"ถ้าเราทลายกำแพงนี้แล้วสร้างเป็นหน้าต่าง ก็คงจะทำให้รับลมทะเลอันสดชื่นได้เยอะเลย"
แต่สามีของเธอบอกว่า

"บ้านหลังนี้เก่ามากแล้ว ถ้าเราทลายกำแพง อาจทำให้บ้านทั้งหลังพังลงมาก็ได้"
ผู้หญิงคนนั้นเชื่อฟังสามี และก็ได้แต่เก็บความคิดอันนั้นไว้ในใจ
เธอคิดว่าที่เขาพูดก็คงมีเหตุผลที่ดี บ้านที่เก่าแล้วเราไม่ควรเปลี่ยนอะไรมาก

วันหนึ่ง สามีของเธอมาตายจากไป เธอต้องเผชิญหน้ากับการเป็นหม้าย
การที่ต้องอยู่คนเดียว เธอไม่รู้จะทำอะไรกับชีวิตใหม่นี้
ไม่กล้าที่จะทำอะไรเลยสักอย่าง
เพราะเธอไม่แน่ใจว่าการเปลี่ยนแปลงมันจะทำให้เธอต้องเผชิญกับอะไรบ้าง
ถ้าเธอออกจากบ้าน ไปหางานทำ ไปสร้างสังคมใหม่ ชีวิตของเธอจะพลิกผัน
ไปเจอกับอะไรบ้างก็ไม่รู้ เธอจึงได้แต่อยู่นิ่งๆ ปล่อยให้วันคืนผ่านไป
โหยหาอยากให้อดีตกลับคืนมา อยากให้วันคืนเดิมๆย้อนมา
ทั้งๆที่ก็รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ในช่วงเวลาเหล่านั้น เธอมักจะฝัน
เธอฝันบ่อยๆว่าเธออยากจะทลายกำแพงฝั่งที่ติดทะเลนั้น
เธอเตรียมอุปกรณ์ไว้พร้อม แต่ก็ลังเล ไม่กล้าที่จะทำเสียที เพราะกลัวว่าบ้านจะพังลงมา
และทุกครั้งที่เธอตื่นนอน เธอก็จะมาด้อมๆมองๆที่กำแพง
ใจหนึ่งก็อยากจะพังมันให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่อีกใจหนึ่งก็ยังนึกถึงคำที่สามีบอก
"บ้านมันเก่ามากแล้ว เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้หรอก"
และในที่สุด เธอก็อดรนทนไม่ไหว เธอเล่าความฝันให้เพื่อนบ้านของเธอฟัง
เพื่อนบ้านของเธอเป็นหนุ่มสาวนิสัยดีคู่หนึ่ง เมื่อพวกเขาได้ฟังดังนั้น
ก็ไม่รอช้า รีบคว้าอุปกรณ์ต่างๆแล้วมุ่งหน้ามาที่บ้านเธอ
พวกเขาลงมือทลายกำแพงนั้นทันที ในขณะที่หญิงเจ้าของบ้านพร่ำอุทานด้วยความหวาดกลัว
"ทำแบบนี้จะดีเหรอคะ"
"บ้านอาจจะพังลงมาก็ได้"
"นี่ฉันกำลังปล่อยให้พวกคุณทำอะไรกันอยู่ ฉันบ้าไปแล้วรึเปล่า"
แต่เพื่อนบ้านผู้แสนดีของเธอก็ยังคงลงมือพังกำแพงต่อไป แล้วก็บอกกับเธออย่างอ่อนโยนว่า
"บ้านของคุณจะปลอดภัยดี ไม่ต้องห่วง"
และในที่สุด กำแพงนั้นก็พังทลายลงมา และบ้านของเธอก็ยังยืนหยัดอยู่อย่างสบาย
สิ่งเดียวที่เปลี่ยนไปก็คือ ลมเย็นๆแสนสดชื่นจากชายทะเล ที่พัดเข้ามาในบ้านเธอได้ตลอดวัน
ตอนนี้ ผู้หญิงคนนี้ได้เข้าใจแล้วว่า การเปลี่ยนแปลงไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวขนาดนั้น บ้านของเธอ
และตัวของเธอ ไม่ใช่สิ่งที่เก่าเกินกว่าที่จะเปลี่ยนแปลงได้ ทั้งบ้านของเธอ และตัวของเธอเอง
เข้มแข็งพอที่จะรับสิ่งใหม่ๆ ถ้าเพียงเธอกล้าพอที่จะยอมให้สิ่งใหม่ๆนั้นเข้ามา
คุณล่ะ มีกำแพงแบบนี้อยู่ในชีวิตของคุณบ้างไหม มีบางสิ่งบางอย่างรึเปล่า
ที่ลึกๆในหัวใจเรียกร้องอยากจะทำ แต่คุณก็ไม่ยอมทำเสียที เพราะมัวแต่คิดว่า
นั่นมันไม่ใช่ฉัน ไม่ใช่ชีวิตแบบที่ฉันรู้จัก
ไม่ใช่สิ่งที่ฉันวางแผนไว้ว่าจะทำ คุณกลัวว่าเจ้าสิ่งใหม่ๆอันนั้นจะ
ทำให้ชีวิตที่คุณสร้างมาดิบดีจะต้องพังทลายลง คุณกลัวที่จะต้องออกจากความคุ้นเคยเก่าๆ
ออกจากชีวิตแบบเดิมๆที่คุณรู้จักดีมาตลอด
ทลายกำแพงนั้นลงเถอะนะ แล้วปล่อยให้สายลมแห่งความสุขพัดเข้ามาในชีวิตของคุณ
"อย่าติดกับวันที่ดีเก่าๆ อย่าอยู่กับความคุ้นเคยเก่าๆ อย่าให้วันคืนที่ดีเก่าๆมันทำร้าย
เปิดดวงใจของเธอค้นหา สิ่งที่เธอนั้นคอยไขว่คว้า ให้เวลารักษาและพาให้พบ....กับวันใหม่"

.....ขอให้ความดีคุ้มครอง.....
.....ขอให้บุญรักษา.....
.....ขอให้ทุกท่านจงประสพแต่สิ่งดีๆในการทำธุรกิจ.....

ไม่มีความคิดเห็น: